Story by Vincent Giordano
Chatchai Sasakul, a former Muay Thai competitor, Olympian and World Boxing Champion, surveys the massive gym floor of his new Muay Thai/Boxing training facility in Bangkok as he prepares to work with a squad of champion boxers who are getting ready for their upcoming fights. It’s a long way from the grinding poverty and harsh Muay Thai camps he grew up in – and fought out of.
“Things have changed tremendously in the last few years,” explains Chatchai. “We are evolving our training methods and creating training facilities that are modern and accommodating to people from all walks of life.”
Chatchai began training in Muay Thai when he was seven years old. Like many kids his age, he fought as a means to help himself and his family find a better way of life. The sacrifices were hard. For a boy so young to be living and training full time as a professional fighter takes its toll, and the only the strongest and most resilient of them survive.
Even though Chatchai fought close to one hundred Muay Thai bouts, his experience in amateur boxing began to bring him notoriety while he was still in his teens. He continued simultaneously fighting in Muay Thai while pursuing a growing amateur boxing career. Chatchai soon became an amateur boxing star, rising from Thai high school boxing champion to competing in the Asian and SEA games and eventually the 1988 Seoul Olympics.
After losing in the Olympic quarterfinals and competing in the 1990 Asian Games in Beijing, Chatchai turned pro in 1991. His hard work paid off when he captured the WBC and Lineal flyweight boxing titles with a win over then-champion Yuri Arbachakov in 1997. He lost his title to rising star Manny Pacquaio in 1998, but continued to fight until 2008, by which time his record was a convincing 63-4-1.
After retiring, Chatchai pursued his other passion – professional snooker – while attempting his hand at opening a restaurant and working on several other personal endeavors. But his love for Muay Thai and boxing came full circle when he began full-time teaching two years ago.
“I decided I wanted to not only teach the next generation of boxers and Muay Thai champions, but also anybody who wanted to learn – even if it was to only get in shape or as a recreational activity,” he says. “The camps in the past were not accessible to women, for example. Most hardcore camps would not train them, so we opened our doors to any woman or child who wanted to learn. Muay Thai and boxing is now for everyone.”
Chatchai’s new facility is not only spacious and packed with modern equipment, but also has clean bathrooms and shower facilities. Classes and training sessions are held throughout the day and early evening, making it easy for anyone to attend when they have the time. “We want everyone to feel comfortable training here,” explains Chatchai. “My trainers and I are always ready to train people to whatever level they want to achieve, from going pro to getting into shape, providing they are willing to put in the hard work.”
Chatchai, though, offers much more than just physical training. His years of training and competing throughout the world at the highest level have given him experience and knowledge above and beyond what most coaches can offer. “I want to share my experiences with the fighters to help steer them through problems I know will come up in their daily lives as they struggle to maintain a healthy career. I know what it’s like, because I have been there. I am here to help them in any way I can.”
In the modern era of boxing and Muay Thai in Thailand, Chatchai is taking a leading role in bringing both sports to the masses. His fame and world-champion experience have made him sought-after by many young fighters who seek to climb the same ladder to success. A fine coach and family man, he tries to create a positive atmosphere in which everyone can flourish in safely.
“I have reached a point in my life when it’s time to give back and help the next generation of champions reach their potential while at the same time spreading the sport out to the masses,” he says. “I want everyone to know how much benefits there are to training. It’s a very positive thing. If you come and train, you will see. I promise you that.”
The former champ’s unbridled enthusiasm is infectious. It’s evident in the many hardworking people from all walks of life who come to the gym daily and train under his tutelage. Chatchai’s dream is slowly coming true once again due to his hard work, dedication and endless sacrifice. If he had his way, everyone in Thailand would be practicing boxing and Muay Thai – and that would make him a very happy man.
Chatchai Sasakul: Training to Win
Chatchai Sasakul: Training to Win from Vincent Giordano on Vimeo.
Chatchai Sasakul: A Life in the Ring
Chatchai Sasakul: A Life in the Ring from Vincent Giordano on Vimeo.
Check out Sasakul Muay Thai Gym on Facebook and visit their website.
(Thai Translation)
ฉัตรชัย สาสะกุล: การตอบแทนจากอดีตแชมป์
เรื่องและภาพ โดย Vincent Giordano
ฉัตรชัย สาสะกุล อดีตนักชกมวยไทยและแชมป์โอลิมปิกและมวยโลก กำลังสำรวจพื้นยิมมวยไทยแห่งใหม่ในกรุงเทพมหานครที่จะใช้สำหรับการฝึกซ้อมมวยโดยนักมวยเพื่อขึ้นชกป้องกันแชมป์ ค่ายมวยแห่งนี้เป็นสิ่งที่แสดงได้ว่าชีวิตของฉัตรชัยมาไกลมาก โดยในอดีตที่ขัดสน เขาต้องเติบโตมาในค่ายมวยที่แร้นแค้น
“ในช่วงสองสามปีที่มา สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปมาก” ฉัตรชัยอธิบาย “เราได้ทำการพัฒนาวิธีการฝึกซ้อมของเรารวมถึงปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการซ้อมชกให้มีความทันสมัยและรองรับนักมวยจากทุกระดับ”
ฉัตรชัยเริ่มชกมวยไทยเมื่อครั้งอายุได้เพียงเจ็ดปี โดยเขาเลือกชกมวยเพื่อหารายได้มาจุนเจือและช่วยเหลือครอบครัวเช่นเดียวกับเด็กๆส่วนใหญ่ที่รุ่นราวคราวเดียวกับเขา การเสียสละในครั้งนี้ยากนักสำหรับเด็กชายตัวเล็กที่ต้องซ้อมมวยเต็มเวลาเหมือนกับนักชกอาชีพและเฉพาะผู้ที่แข็งแกร่งและทนทานที่สุดเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดได้
ถึงแม้ว่าฉัตรชัยขึ้นชกบนสังเวียนมาแล้วกว่าหนึ่งร้อยครั้ง แต่ชื่อเสียงของเขาเริ่มเป็นที่ประจักษ์เมื่ออยู่ในช่วงวัยรุ่น ฉัตรชัยชกมวยไทยอย่างต่อเนื่องและในเวลาเดียวกันเขาได้พัฒนาฝีมือเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพนักมวยสมัครเล่น หลังจากนั้นไม่นาน ฉัตรชัยได้กลายเป็นดาวดวงเด่นแห่งวงการนักมวยสมัครเล่น โดยไต่เต้าจากการเป็นแชมป์ระดับมัธยมปลายจนถึงแชมป์ระดับอาเซียนและซีเกมส์รวมถึงคว้าชัยในกีฬาโอลิมปิค 1988 ที่จัดขึ้นในกรุงโซล
หลังจากที่ฉัตรชัยพ่ายในการป้องกันแชมป์ในรอบก่อนรองชนะเลิศในกีฬาเอเชียนเกมส์ 1990 ที่ปักกิ่ง แต่ฉัตรชัยได้ผันตัวเป็นนักชกอาชีพในปี 1991 ผลงานที่เขาได้ทุ่มเทอย่างหนักได้ตอบแทนเขาในที่สุดเมื่อสามารถคว้าแชมป์รุ่นฟลายเวจได้ในศึก WBC และLineal โดยสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ Yuri Arbachakov ได้ในปี 1997 จากนั้นได้พ่ายแชมป์ให้แก่ Manny Pacquaio ในปี1998 แต่ยังคงชกมวยต่อจนถึงปี 2008 โดยสามารถทำสถิติได้ 64-4-1
หลังจากที่แขวนสังเวียน ฉัตรชัยได้ทำตามความฝันอื่นๆของตัวเองด้วยการผันตัวมาเล่นสนุ๊กเกอร์อาชีพและเปิดร้านอาหารรวมถึงทำงานที่รักในด้านอื่นๆอีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ความรักในการชกมวยไทยได้ถึงจุดสูงสุดเมื่อฉัตรชัยตัดสินใจเปิดสอนชกมวยเมื่อสองปีที่ผ่านมา
“ผมได้ตัดสินว่าผมจะไม่ได้จำกัดการสอนชกมวยให้แก่นักชกรุ่นใหม่หรือแชมป์มวยไทยเท่านั้น แต่ผมจะสอนแก่ทุกคนที่ต้องการเรียนชกมวยไม่ว่าจะเพื่อเป็นการออกกำลังกายรักษารูปร่างหรือเพื่อสันทนาการ” เขากล่าว “ในอดีต ค่ายมวยเป็นสถานที่ผู้หญิงไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะค่ายมวยที่เข้มงวดจริงๆจะไม่สอนให้ ดังนั้น เราจึงตัดสินใจเปิดประตูต้อนรับทั้งผู้หญิงและเด็กที่ต้องการเรียนชกมวยไทยและตอนนี้การชกมวยเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้แล้ว”
ค่ายมวยแห่งใหม่ของฉัตรชัยไม่เพียงแต่มีพื้นที่กว้างขวางแต่ยังมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยรวมถึงห้องน้ำและห้องอาบน้ำที่สะอาด ตลอดทั้งวันจะมีการเปิดสอนและซ้อมมวยโดยเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมเรียนและซ้อมได้ง่ายขึ้นเมื่อมีเวลา “เราอยากให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบายเมื่อมาฝึกซ้อมที่นี่” ฉัตรชัยได้อธิบาย “ทั้งผมและผู้ฝึกซ้อมพร้อมเสมอในการสอนและซ้อมให้แก่คนจากทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพื่อเป็นนักมวยอาชีพหรือรักษารูปร่าง โดยที่คนเหล่านี้ต้องพร้อมสำหรับการฝึกซ้อมที่หนักและมีวินัย”
ฉัตรชัยให้มากกว่าการฝึกซ้อมทางร่างกาย เพราะจากประสบการณ์หลายปีในการซ้อมมวยและแข่งขันทั่วโลกในระดับสูงสุดทำให้ฉัตรชัยมีประสบการณ์และความรู้มากกว่าที่โค้ชส่วนใหญ่จะสามารถให้ได้ “ผมต้องการแบ่งปันประสบการณ์ที่ผมได้รับกับนักชกเพื่อช่วยนำทางแก้ไขปัญหาแก่พวกเขาเพราะผมทราบว่าพวกเขาจะต้องประสบอุปสรรคในแต่ละวันในการพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงในอาชีพนี้ ผมทราบดีว่าเป็นยังไงเพราะผมเคยผ่านมาก่อน ผมพร้อมช่วยเหลือพวกเขาเหล่านี้ในทุกด้านที่ผมทำได้”
ในยุคใหม่ของการชกมวยและมวยไทยในประเทศไทย ฉัตรชัยมีบทบาทสำคัญในการนำกีฬาเข้าสู่ผู้คน ชื่อเสียงและประสบการณ์ระดับแชมป์โลกของเราทำให้ฉัตรชัยกลายเป็นหนึ่งในครูสอนชกมวยที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับนักชกรุ่นใหม่ที่ต้องการไต่เต้าสู่ความสำเร็จ ฉัตรชัยเป็นทั้งผู้ฝึกสอนที่ดีและเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ยอดเยี่ยม เขาพยายามสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกที่ทุกๆคนสามารถประสบความสำเร็จได้
“ผมถึงจุดหนึ่งของชีวิตที่ผมต้องตอบแทนและช่วยเหลือนักชกรุ่นใหม่ที่ต้องการบรรลุศักยภาพและในเวลาเดียวกันสามารถเผยแพร่กีฬาประจำชาตินี้แก่คนอื่นๆ” เขากล่าว “ผมอยากให้ทุกคนตระหนักถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการฝึกซ้อมซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก คุณจะเห็นด้วยตัวเองหากคุณมาฝึกซ้อม ผมสัญญาเลย”
ความกระตือรือร้นของอดีตแชมป์ท่านนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นได้จากการที่ผู้คนจากทุกสาขาอาชีพเดิมทางมาซ้อมมวยที่ค่ายของเขาทุกวัน ความฝันของฉัตรชัยค่อยๆกลายเป็นจริงขึ้นอีกครั้งด้วยความทุ่มเท การอุทิศตนและการสร้างแรงใจอย่างไม่สิ้นสุด หากทุกคนในประเทศไทยสามารถซ้อมมวยไทยได้ เขาจะมีความสุขอย่างยิ่ง
Chachai is a fabulous boxing trainer. It is very hard to find western style boxing opportunities in Bangkok, but he is the best. Very nice and generous man. Once a champion, always a champion.